2

Business

จากการอนุรักษ์สู่การฟื้นฟู: เมื่อท่องเที่ยวกลายเป็นเครื่องมือเยียวยาโลก

เทรนด์ท่องเที่ยวกำลังเปลี่ยนไป จากการเดินทางเพื่อพักผ่อน กลายเป็นการเดินทางที่ใส่ใจทุกอย่างมากขึ้น ทั้งต่อธรรมชาติ ผู้คน และวัฒนธรรมท้องถิ่น มาดูกันว่าทำไมการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟูถึงสำคัญ และได้รับความสนใจอย่างมากในตอนนี้

ทำไมเทรนด์ “การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู” ถึงน่าจับตาในยุคนี้

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและผลกระทบต่อพื้นที่มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในแนวคิดที่น่าจับตามองก็คือ การท่องเที่ยวแบบฟื้นฟู (regenerative travel)  ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นวิธีคิดใหม่ในการเดินทาง

แล้วการท่องเที่ยวแบบฟื้นฟูคืออะไร?

พูดง่าย ๆ คือ การท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการช่วยฟื้นฟูและพัฒนาสถานที่ที่เราไปเยือนให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่รักษาสภาพเดิมไว้ แต่ตั้งใจทำให้สิ่งแวดล้อม ชุมชน และวัฒนธรรมท้องถิ่นได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง แตกต่างจากการท่องเที่ยวแบบมวลชนที่มักทิ้งร่องรอยไว้โดยไม่ตั้งใจ 

แนวคิดนี้จึงมุ่งให้เรา “เดินทางแบบมีจิตสำนึก” และทำให้สถานที่เหล่านั้นยังคงน่าอยู่ น่าเที่ยว และยั่งยืนต่อไปในระยะยาว

การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Vs. การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย Stockbusters.

การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน คือการชะลอไม่ให้สถานที่พังเร็ว แต่การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟูคือการลงมือ “ซ่อมแซม” และ “เติมชีวิต” ให้ที่เที่ยวกลับมาสดใสกว่าเดิม

The New York Times เคยเขียนไว้ว่า “การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนก็แค่อย่าทำเละ” แต่ถ้าเป็นแนวฟื้นฟูก็คือ “เราทำให้มันดีกว่าเดิมได้ไหมเพื่อคนรุ่นหลัง”

Regenerative Travel หรือการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู ไม่ใช่แค่เที่ยวแบบกรีน ๆ หรือแค่หาที่คนไม่พลุกพล่าน แต่มันคือแนวคิดที่บอกว่านักท่องเที่ยวเองก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่แค่มาแชะถ่ายรูปแล้วจากไป แต่ต้องช่วยดูแลพื้นที่นั้น ๆ ให้ยังอยู่รอดไปได้อีกนาน

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย Tirachard Kumtanom.

ภาพที่สื่อถึงการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู อาจเป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังช่วยเก็บขยะริมชายหาด หรือร่วมกิจกรรมฟื้นฟูธรรมชาติ ขณะที่ภาพของการท่องเที่ยวยั่งยืน (sustainable travel) อาจแค่เป็นนักท่องเที่ยวยืนริมทะเล พร้อมถือขวดน้ำใช้ซ้ำได้เฉย ๆ 

พูดง่าย ๆ คือภาพของ regenerative travel ต้องแสดงให้เห็นการมีส่วนร่วม เห็นการ “ลงแรง” เพื่อดูแลสถานที่นั้น ๆ ไม่ใช่แค่รักษาสิ่งแวดล้อมเฉย ๆ แต่เป็นการช่วยให้มัน “ดีขึ้น” กว่าตอนที่มาพบเจอ 

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย Shannon West.

จะเล่าเรื่อง “การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู” ผ่านภาพยังไงดี?

แนวคิดนี้ฟังดูยิ่งใหญ่ แถมยังใหม่อยู่พอตัว แต่ตอนนี้ก็เริ่มเห็นกันบ้างแล้วว่ามันจะมีหน้าตาเป็นยังไง มีหลายจุดที่เริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ และช่วยให้เราจินตนาการออกว่า เทรนด์การท่องเที่ยวแบบนี้มันน่าสนใจยังไง และกำลังจะพาเราไปทางไหนบ้าง

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย Rachid Dahnoun.

Low-Footprint Travel

การบินคือตัวปล่อยคาร์บอนแบบจัดหนักถึง 12% ของมลพิษจากการขนส่งทั้งหมด ส่วนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ไม่น้อยหน้า โดยสูงถึง 8% ของการปล่อยก๊าซทั่วโลก มากกว่าการก่อสร้างอีกด้วย

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย begalphoto.

ภาพที่หลายคนอยากเห็นคือรูปแบบการเดินทางสุดคูลหลากหลายสไตล์ ทั้งปั่นจักรยาน รถไฟ เดินเท้า เรือใบ แล้วก็รถไฟฟ้า แบบนี้แหละที่เรียกว่าการเที่ยวแบบยั่งยืนและเก๋ไก๋ในยุคนี้

Community Oriented

การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟูให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ไม่ต่างจากการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภาพที่สื่อถึงเทรนด์การท่องเที่ยวนี้จึงควรเน้นไปที่ผู้คนที่เป็นหัวใจของสถานที่นั้น ๆ ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ คนในชุมชนที่มีปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยว ชนพื้นเมือง รวมถึงสถานที่พบปะ เช่น ศูนย์ชุมชน ตลาด แหล่งสำคัญสาธารณะ หรือโบสถ์ เป็นต้น

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย Dudarev Mikhail.

Supporting Local Business

พลังของเงินในกระเป๋าของเรา มีผลต่อการสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นอย่างชัดเจน เวลาที่เราเดินทางออกไปนอกชุมชน การเลือกซื้อของจากท้องถิ่นจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก นักท่องเที่ยวจึงถูกส่งเสริมให้เลือกซื้อของแท้จากชุมชนนั้น ๆ

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย Blend.

ภาพที่ควรสื่อออกมาคือวิธีที่เราใช้จับจ่ายในขณะเดินทาง เช่น นักท่องเที่ยวกำลังซื้อสินค้าทำมือจากช่างฝีมือท้องถิ่น งานศิลปะที่มีการมีส่วนร่วม ธุรกิจขนาดเล็ก หรือตลาดท้องถิ่น แทนที่จะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านแบรนด์ดัง หรือร้านค้าในสนามบิน รวมถึงสินค้าหรือวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสถานที่นั้น ๆ เช่น ผ้าไทย อาหาร หรือขนม เป็นต้น

Indigenous Perspectives

ในหลายภูมิภาคทั่วโลก ชนพื้นเมืองเป็นผู้ดูแลผืนดินและท้องทะเลของตนเองมาอย่างยาวนาน พวกเขามีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและดูแลพื้นที่ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย Bangtalay.

ดังนั้นในการถ่ายทอดเรื่องราวหรือภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู การให้พื้นที่แก่ชนพื้นเมืองและยอมรับในบทบาทของพวกเขา จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม

Tourism Employees and Industry

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า หัวใจของการท่องเที่ยวแนวนี้อยู่ที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว และคนในอุตสาหกรรมเป็นหลักก็จริง แต่นักท่องเที่ยวเองก็เป็นส่วนสำคัญในสมการนี้เช่นกัน

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย Daniel Sierralta / Westend61.

ที่ผ่านมา ภาพการท่องเที่ยวมักเน้นไปที่ตัวนักท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู เราควรเห็นความสำคัญของ “ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง” อุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วย ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถบัส มัคคุเทศก์ พนักงานโรงแรม พนักงานต้อนรับ พ่อครัว แม่ครัว หรือพนักงานเสิร์ฟ ทุกคนล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญของประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

Small Groups and No Crowds

การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟูไม่เน้นเที่ยวแบบแออัด แต่ส่งเสริมให้กระจายตัวออกไปสำรวจพื้นที่อื่น ๆ ในชุมชนหรือจุดหมายที่เราไป แทนที่จะกรูกันไปถ่ายเซลฟี่ในที่ ๆ เดียว นักท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟูจะถูกชวนให้มองหาประสบการณ์ที่ต่างออกไป อาจจะเป็นที่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก ที่กำลังต้องการรายได้จากนักท่องเที่ยว หรือที่ที่สามารถต้อนรับเราได้อย่างยั่งยืน ไม่กระทบต่อชุมชนหรือธรรมชาติจนเกินไป

ท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู
ภาพโดย Guoqiang Xue.

หากคุณกำลังมองหาภาพถ่ายที่สะท้อนแนวคิดการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู ทั้งในแง่ของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การส่งเสริมชุมชน และประสบการณ์การเดินทางอย่างยั่งยืนจาก Shutterstock สามารถติดต่อการใช้งานภาพเหล่านั้นได้ที่ Number 24

Inbox : http://m.me/number24.co.th

LINE Official Account : https://line.me/R/ti/p/@klj9484n

Instagram : https://www.instagram.com/number24.co.th

Website : https://number24.co.th/

Related Blog

 
E7VW7Oau687sLNEfDtVw

การท่องเที่ยวและโรงแรม ต้องยิงแอดโฆษณาอย่างไรให้ปัง! โดยใช้ข้อมูลจาก AI

 
 
1 9

Outing นี้ ไปไหนดี? Number 24 ชวนพนักงานแชร์ไอเดียที่เที่ยวและกิจกรรมในฝัน

 
 
1 10

แบรนด์ไม่ต้องพูดเยอะแค่ ดีไซน์ ให้ดีแล้วธรรมชาติจะเล่าเรื่องให้เอง

 
 

AI จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปในทางที่ดี ถ้าเราพัฒนามันอย่างถูกจริยธรรม

 

Tell us about yourself





    Type: