บอกเลยว่านี่คือเรื่องเครียดแต่เราไม่อยากให้คุณเครียด! ถ้าคุณอ่านบทความนี้จบรับรองว่าคุณจะรู้สึกว่า “รู้งี้อ่านตั้งนานแล้ว” ครั้งนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง Sensitive Use
การใช้สื่อสต็อกไม่ว่าจะเป็นภาพ วิดีโอ หรือเสียง ถือเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของเหล่าผู้กำกับ นักโฆษณา และนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ เพราะมันช่วยให้ไอเดียสุดล้ำกลายเป็นผลงานจริงได้ง่ายขึ้น แต่รู้มั้ย? เวลาเราเอาสื่อพวกนี้มาใช้ ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องระวังด้วยนะ นั่นก็คือเรื่องของ “Sensitive Use” หรือ “การใช้งานในบริบทอ่อนไหว”
วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจว่า Sensitive Use คืออะไร? ทำไมถึงต้องใส่ใจ? และจะใช้สื่อสต็อกยังไงให้ปลอดภัยทั้งทางจริยธรรมและกฎหมาย
“Sensitive Use” คืออะไร?
“Sensitive Use” หรือ “การใช้งานในบริบทอ่อนไหว” เป็นคำที่เอาไว้เรียกเวลาที่เรานำสื่อสต็อก ไม่ว่าจะเป็นภาพ วิดีโอ หรือเสียงไปใช้ในโปรเจกต์ที่อาจจะทำให้คนในภาพ (หรือกลุ่มคนอื่น ๆ) รู้สึกไม่โอเค เช่น รู้สึกว่าดูหมิ่น ละเมิด หรือเชื่อมโยงกับประเด็นอ่อนไหวบางอย่าง
ความหมายนี่ฟังดูกว้างมากเพราะมันกว้างจริง ๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้สื่อนั้นในบริบทแบบไหน เพราะบางอย่างดูปกติในสถานการณ์หนึ่ง แต่อาจกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในอีกสถานการณ์ก็ได้

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ ก็คือ ลองนึกถึงนายแบบคนหนึ่งที่เท่สุด ๆ อยู่ในโฆษณาหมวกเบสบอล ดูหล่อเท่สปอร์ตมาก แต่ถ้าเอาภาพเดียวกันไปใช้ในโฆษณายารักษาริดสีดวง… แบบนี้อาจไม่โอเค เพราะถึงแม้ภาพจะเหมือนกัน แต่ความหมายที่สื่อออกมาไม่เหมือนกันเลย
“บริบท” ใช้ภาพเดิมแต่คนดูรู้สึกไม่เหมือนเดิม
“ภาพเดียวกันใช้ในบางบริบทดูปกติ แต่ในอีกบริบทกลับรู้สึกไม่โอเค” คล้าย ๆ กับแนวคิดทางจิตวิทยาหนังที่เรียกว่า Kuleshov Effect
ตั้งชื่อตามผู้กำกับชาวโซเวียตชื่อว่า Lev Kuleshov เขาเคยทำการทดลองง่าย ๆ แต่ผลลัพธ์ลึกซึ้งมาก โดยเขาเอาภาพใบหน้านิ่ง ๆ ของนักแสดงมาสลับต่อกับช็อตอื่น ๆ เช่น จานซุป เด็กนอนในโลง หรือผู้หญิงนอนบนโซฟา แล้วให้คนดูตีความ
ผลก็คือ คนดูรู้สึกว่านักแสดงโชว์อารมณ์ต่างกันทั้งที่จริง ๆ แล้วใช้ภาพนักแสดงเดิมเป๊ะ ความรู้สึกมันเปลี่ยนเพราะบริบทของภาพก่อนหน้านั่นเอง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “การใช้ภาพสต็อก”
ตัวอย่างเช่น วิดีโอคลิปของคุณลุงคุณป้าเล่นเกมกีฬาอย่างสนุกสนานกลางสวน ถ้าเอาไปใช้ในโฆษณาบ้านพักผู้สูงอายุ ก็ดูอบอุ่นน่าอยู่
แต่ถ้าเอาคลิปเดียวกันไปใช้ในโฆษณายารักษาโรคเรื้อรังหรือโรคร้ายแรง แบบนี้อาจกลายเป็นบริบทอ่อนไหวทันที เพราะทำให้คนดูเชื่อมโยงภาพนั้นกับความเจ็บป่วยโดยไม่รู้ตัว
อีกตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเลยก็คือภาพของคนกำลังปาร์ตี้สนุกสนาน ถ้าเอาไปใช้ในโปสเตอร์โฆษณาผับหรือไนต์คลับ ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะภาพมันก็ตรงกับบริบทปาร์ตี้เฮฮาอยู่แล้ว

แต่ถ้าเอาภาพเดียวกันไปใช้ใน โฆษณายาคุม ที่อยู่ในนิตยสาร แบบนี้อาจจะเข้าข่าย “Sensitive Use” ทันที เพราะมันอาจสื่อถึงพฤติกรรมหรือความหมายแฝงบางอย่างที่ทำให้คนดูรู้สึกไม่สบายใจ หรือกลายเป็นประเด็นทางสังคมขึ้นมาได้
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่เราทำอยู่ เข้าข่าย “Sensitive Use”
ต้องบอกก่อนว่า ไม่ใช่ทุกอย่างจะไปเกี่ยวข้องกับ “Sensitive Use” ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นไม่บ่อยมากนัก แต่ถ้าเจาะลึกลงไป จะพบว่ามันมักโผล่มาในบางอุตสาหกรรมหรือบางประเภทของงานโฆษณา เช่น
- โฆษณายาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
- แคมเปญประชาสัมพันธ์ภาครัฐ
- โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
ถ้าอยากเช็กว่าโปรเจกต์ของคุณเข้าข่าย “Sensitive Use” ไหม? ลองเช็คกับคำถามดังนี้
1. มีการแสดงอาการเจ็บป่วยทางกายหรือจิตใจรึเปล่า?
ถ้าเนื้อหาของคุณมีภาพคนที่ดูเหมือนกำลังป่วย หรืออยู่ในระหว่างการรักษา ไม่ว่าจะเป็นโรคทางกายหรือจิตใจ อันนี้จัดว่าเสี่ยง เพราะคนในภาพอาจไม่ยินดีให้ภาพตัวเองถูกใช้ในบริบทแบบนี้
2. มีการสื่อว่าโมเดลในภาพสนับสนุนสินค้าหรือบริการที่เป็นประเด็นอ่อนไหวมั้ย?
เช่น ความรุนแรง การเปลือย หรือบริการที่เป็นข้อถกเถียงในสังคม ถ้าใช้แล้วดูเหมือนว่าโมเดลในภาพ “สนับสนุน” หรือ “เกี่ยวข้อง” กับสิ่งเหล่านี้ ก็อาจเข้าข่าย Sensitive Use ได้ทันที
3. มีความเกี่ยวข้องทางการเมืองหรือเปล่า?
ถ้ามีภาพหรือข้อความที่ดูเหมือนว่าโมเดลในภาพสนับสนุน หรือคัดค้านนักการเมือง พรรค หรือแนวคิดทางการเมืองใด ๆ อันนี้เสี่ยงชัดเจน เพราะเกี่ยวพันกับความเชื่อส่วนบุคคลที่อ่อนไหวมาก
4. มีการใส่ความหมายเชิงลบหรือเชื่อมโยงกับประเด็นดราม่ามั้ย?
เช่น การใช้ภาพของใครบางคนในบริบทที่อาจดูแย่ เป็นด้านลบ หรือเชื่อมโยงกับประเด็นขัดแย้ง ถ้าทำแบบนี้โดยที่เจ้าของภาพไม่ได้รับรู้หรือยินยอม ก็จัดว่า “Sensitive Use” ชัดเจน

ถ้าเนื้อหาของคุณเกี่ยวข้องกับสุขภาพ การเมือง หรือประเด็นอ่อนไหวต่าง ๆ ที่อาจถูกตีความในทางลบ แนะนำให้หยุดคิดสักนิดก่อนใช้ภาพสต็อก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้ใช้ผิดบริบท เพื่อความสบายใจของทั้งคุณเองและคนที่อยู่ในภาพ
ถ้าอยากได้ความมั่นใจก่อนใช้งานคอนเทนต์ประเภทเหล่านี้ Number 24 x Shutterstock พร้อมให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้นหาคอนเทนต์ที่ใช่สำหรับคุณ หรือจะเป็นเรื่องลิขสิทธิ์ต่าง ๆ มากมาย
สอบถามข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่
Inbox : http://m.me/number24.co.th
LINE Official Account : https://line.me/R/ti/p/@klj9484n
Instagram : https://www.instagram.com/number24.co.th
Website : https://number24.co.th/